ถ้าพูดถึงเกาะสมุยแล้วจะนึกถึงอะไร?
เกาะ…ทะเล…แหล่งท่องเที่ยว…และ “มะพร้าว” นั่นเอง
มะพร้าวมีความสำคัญกับเกาะสมุยมาเนิ่นนาน ชนิดที่ชาวต่างชาติได้ตั้งชื่อเล่นให้กับเกาะสมุยว่า “Coconut Island” หรือ “Palm Island” กันเลยทีเดียว ด้วยเกาะสมุยเป็นแหล่งที่เพาะปลูกมะพร้าวเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ มีกรรมวิธีการแปรรูปมะพร้าวให้กลายเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่ได้คุณภาพ บวกกับการขนส่งในปัจจุบันที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวจึงได้กลายเป็นสินค้า OTOP ขึ้นชื่อของเกาะ ด้วยเหตุนี้ “บ้านมะพร้าว” จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้มาเรียนรู้ประวัติความเป็นมา กรรมวิธีการผลิตตั้งแต่การปลูก เก็บเกี่ยว และแปรรูปมาเป็นผลิตภัณฑ์ให้เราได้ใช้กัน ใครที่เป็นชาว Coconut Lover ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนที่แห่งนี้ค่ะ
การเดินทางไปที่บ้านมะพร้าวนั้นก็ไม่ยากเลยค่ะ โดย “บ้านมะพร้าว” ตั้งอยู่ที่ตำบลอ่างทอง ไม่ไกลจากท่าเรือหน้าทอน ขับรถมาตามถนนใหญ่แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางซอยอ่างทอง 2 หน้าซอยมีป้ายบอกแหล่งท่องเที่ยวชัดเจน พอเข้าซอยแแล้วขับต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรก็ถึงที่หมายแล้วค่ะ
หลายคนคงสงสัยว่าไปบ้านมะพร้าวแล้วจะได้ทำอะไรบ้าง?
เมื่อมาถึงแล้ว สิ่งแรกที่เห็นเลยคือ Coconut Museum ซึ่งจะรวบรวมประวัติความเป็นมา การนำมะพร้าวไปใช้ประโยชน์ และข้าวของเครื่องใช้จากมะพร้าวเอาไว้ ในส่วนของพิพิธภัณฑ์สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ ไม่ต้องจองล่วงหน้าก็สามารถ Walk-in เข้าได้เลยค่ะ ด้านในพิพิธภัณฑ์ก็จะเป็นห้องกว้างที่จัดแสดงประวัติและสิ่งของต่างๆ ไว้เป็นโซน ให้เราได้เดินชมกัน
นอกจากป้ายให้ความรู้ต่างๆ แล้ว ยังมีที่นวดฝ่าเท้าจากกะลามะพร้าวให้เราเล่นกันด้วย ซึ่งกะลาที่ตั้งเรียงรายอยู่นี้ไม่ได้กะโหลกกะลาอย่างที่เราเห็นนะคะ เพราะพอเราเดินบนกะลามะพร้าวแล้วมีความรู้สึกเจ็บตรงไหน ก็จะสามารถบ่งบอกโรคที่เรามีความเสี่ยงที่จะเป็นได้ค่ะ เป็นการแพทย์แผนโบราณที่นำมาใช้ได้จริงๆ ค่ะ
ข้าวของเครื่องใช้จากมะพร้าวก็มีนะคะ เพราะมะพร้าวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งผล ใบ ลำต้น แม้กระทั่งรากเลยล่ะค่ะ ชาวพื้นเมืองสมุยสมัยก่อนจึงมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับมะพร้าวมาก และอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องมาคู่กับมะพร้าว คือ “กระต่ายขูดมะพร้าว” ค่ะ เพราะจะให้ทำเป็นที่นั่งขูดมะพร้าวธรรมดาๆ มันก็ไม่มีสีสัน ช่างสมัยก่อนเลยแกะสลักกระต่ายขูดมะพร้าวให้มีความแปลก แหวกแนว จะแหวกขนาดไหนก็ต้องไปตามดูที่พิพิธภัณฑ์บ้านสวนมะพร้าวนะคะ
หลังจากเติมเต็มความรู้กันไปแล้ว ก็ได้เวลาช็อปปิ้งผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวแล้วค่ะ! เชื่อว่าหลายๆ คนรอเวลานี้อยู่ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งผลิตมะพร้าวส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ จึงมีสินค้าให้เราเลือกซื้อมากมาย ทั้งน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ลิปบาล์ม สบู่ แชมพู งานแฮนด์เมดจากกะลามะพร้าว ฯลฯ เรียกว่าซื้อฝากคนทั้งหมู่บ้านยังได้ค่ะ (ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยค่า)
น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% ใสแจ๋วแล้วค่ะ นาทีนี้เรียกว่าไม่มีติดบ้านคงไม่ได้ เพราะมีงานวิจัยจากหลายสถาบันชี้ให้เห็นถึงสรรพคุณของน้ำมันมะพร้าว ทั้งหมักผมช่วยให้ผมนุ่มสลวยเงางาม ทาผิวปกป้องแสงแดด และยังช่วยให้ผิวมีสีแทนสวยสม่ำเสมอกันทั่วทั้งตัว ใช้ลบเครื่องสำอางกันน้ำและบำรุงผิวหน้าไปด้วยในตัว หรือจะรับประทานในตอนเช้าช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ทำให้น้ำหนักลด บำรุงหัวใจ พูดง่ายๆ คือหัวจรดเท้าน้ำมันมะพร้าวเอาอยู่ค่ะ โดยที่นี่จากขายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Spaco ซึ่งเป็นแบรนด์ของทางบ้านมะพร้าวเองนะคะ ได้รับการรับรองเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคแท้ 100% ค่ะ
เดินดูอย่างเดียวมันไม่สะใจ งั้นเรามาลงมือทำกันค่ะ!! โดยทางบ้านมะพร้าวจะจัดเป็นกิจกรรม Workshop ทำขนม แต่ไม่ใช่ว่า Walk-in เข้ามาแล้วจะได้ทำเลยนะคะ กิจกรรมนี้ต้องจองก่อนล่วงหน้า โดยสามารถจองโดยตรงผ่านเพจของทางบ้านมะพร้าวได้เลยค่ะ กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับกรุ๊ปที่มาท่องเที่ยวเป็นครอบครัว หรือกลุ่มคนที่มาศึกษาดูงานมากๆ เพราะเราจะได้เรียนรู้การทำขนมพื้นบ้าน ได้แก่ ขนมโค และขนมขี้มัน ซึ่งมีมะพร้าวเป็นส่วนผสมหลัก นอกจากจะสนุกแล้วยังอร่อยด้วยค่ะ
ขนมชนิดแรกที่เราจะทำกันก็คือ “ขนมขี้มันค่ะ” จะประกอบด้วยสองส่วนคือตัวกะทิด้านล่างและตัวขี้มันที่นำมาโรยด้านบน โดยขั้นแรกต้องเอาหางกะทิไปผสมกับน้ำตาลมะพร้าว แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวสาลี และคนให้เข้ากัน จากนั้นนำมาตั้งไฟ เคี่ยวจนงวดเป็นเนื้อข้นๆ ค่ะ
ต่อมาเราก็จะทำ “ขี้มัน” กันโดยการนำหัวกะทิมาตั้งไฟ และเคี่ยวจนแยกชั้นเป็นน้ำมันใสๆ กับส่วนที่เป็นกากสีน้ำตาล กากนี้เองค่ะที่เราเรียกว่า “ขี้มัน” รสชาติมันอร่อย แอบคล้ายผงโกโก้อยู่เหมือนกันนะคะ โดยขนมนี้เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่จะสกัดน้ำมันมะพร้าวออกมาใช้ในการประกอบอาหาร ทำให้เกิดเป็นขี้มันที่สามารถรับประทานได้ขึ้นมาค่ะ
เสร็จแล้วค่ะขนมขี้มันของเรา น่าทานมากๆ เลยใช่มั้ยคะ แต่เราจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ค่ะ ไปต่อที่ขนมโคกันเลยค่า โดยขนมโคจะนำแป้งข้าวเหนียวมาผสมกับสีธรรมชาติ เช่น สีน้ำเงินจากน้ำดอกอัญชัน สีเขียวจากน้ำใบเตย เป็นต้นค่ะ หลังจากนวดจนแป้งจับตัวเป็นเนื้อเดียวกันเราก็จะใส่ไส้เป็นน้ำตาลมะพร้าวปึกลงไป และน้ำไปต้มในน้ำเดือดให้แป้งสุกค่ะ
พอแป้งสุกแล้วเราก็นำมาคลุกกับมะพร้าวขูด ใส่เกลือโรยลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ ลูกเล็กบ้างใหญ่บ้างอย่าว่ากันนะคะ มือใหม่หัดปั้นค่ะ
เสร็จแล้วก็จัดใส่กะลาน่าทานมากๆ ค่ะ ตอนเคี้ยวจะมี Texture ของน้ำตาลมะพร้าวปึกกรุบๆ ด้วย เวลาที่ใช้ในการ workshop ก็ไม่นานเลยค่ะ ประมาณ 30-40 นาทีเท่านั้น ใครจำสูตรได้ก็สามารถกลับไปทำที่บ้านก็ได้นะคะ
หลังจากได้ชม ชิม ช็อป กันเป็นที่เรียบร้อย ก็ถือว่าภารกิจของวันนี้เสร็จสิ้นแล้วค่ะ ถ้ามีโอกาสอยากให้ทุกๆ คนลองมาเยี่ยมชมบ้านมะพร้าวกันดูนะคะ นอกจากจะสนุกแล้วยังได้ความรู้อีกด้วย ที่สำคัญได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านเพียบเลยค่ะ
📍 พิกัดบ้านมะพร้าว: https://goo.gl/maps/tC2hBEmHGvHMwq2K9
📞 Tel. 077-421-211, 089-744-8335